เมื่อวันก่อนผมคุยกับเพื่อนคนนึง เขาบอกว่าจะไปงานแข่งรถดริฟ D1 Thailand ที่เมืองทองธานีและจะแวะไปงาน Bangkok Auto Salon 2013 ที่จัดอยู่ที่นั่นด้วย "ไปด้วยกันป่ะ" เขาถาม ผมนั่งคิดอยู่แป๊บนึง
อืม...รถแข่งเราก็ไม่ได้ชอบดู ของแต่งรถเราก็ไม่ได้สนใจ (ขนาดงาน Motor Show ยังไม่ไปเลย) ถ่ายรูปพวก Action Sport หรือ Pretty ก็ไม่ใช่แนว...โอเคไปก็ไป เอ๊ะยังไง?!? ไม่ใช่อะไรหรอกครับเรื่องของเรื่องคือพึ่งได้เจ้าเลนส์ Sony 70-300mm f/4.5-5.6 G มา แล้วยังไม่มีโอกาสได้ใช้เลยพูดง่ายๆก็คือเห่อเลนส์ใหม่นั่นเอง 555
ไปถึงเมืองทองตอนประมาณบ่ายสองกว่าๆตอนแรกก็กลัวเหมือนกันว่าฝนจะตกแต่โชคดีวันนั้นฟ้าใสแดดดี (กลับมาตัวดำเลย) ข้างบนเป็นตารางการแข่งขันแต่สรุปแล้วทุกอย่างช้ากว่ากำหนดมาก จากที่จะแห่งเสร็จสี่ทุ่มกลายเป็นเที่ยงคืนกว่า
ตอนไปถึงยังพึ่งแข่งรอบ qualify อยู่ผมเลยไปเดินงาน Auto Salon กันก่อน ข้างบนเป็นรถที่เขาโชว์ไว้หน้าสนามแข่งครับแต่ไม่ได้ใช้แข่งจริง
งานก็ถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ครับมีรถเยอะดีเหมือนกันแล้วก็มีของแต่งต่างๆที่มาออกบูธกัน
แต่ผมเดินๆดูแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันต่างจากงาน Motor Show เท่าไหร่ เหมือนเป็น Mini Motor Show ที่มีของน้อยกว่างานใหญ่มากกว่า โดยเฉพาะพวกเครื่องเสียงรถยนต์ที่ผมเห็นมีขายอยู่น้อยมากๆ เพื่อนที่ชอบแต่งรถก็บ่นๆเหมือนกันว่าปีนี้เครื่องเสียงน้อย
แต่ก็ดีอย่างนึกตรงที่ว่าคนน้อยกว่ามาก เดินทางมารถก็ไม่ติดในงานคนก็ไม่เยอะเดินสบาย
โชคดีที่เอาเลนส์ Wide ไปเผื่อด้วยเพราะใช้ 70-300mm ข้างในนี่จะถ่ายรถทีนึงต้องถอยไปเป็นสิบๆเมตร
คันนี้น่าจะเหมาะกับถนนเมืองไทย 555 แต่หน้านี้คงโดนฝนสาดแน่นอน
เจ้าตัวนั้นไปทำอะไรในรถเนี่ย
นี่คงจะใกล้เคียงกับการถ่ายรูป Pretty ที่สุดสำหรับผมแล้ว ไม่ใช่อะไรหรอกครับคือไม่เคยก็เลยไม่กล้าเข้าไปถ่ายรู้สึกอายๆยังไงก็ไม่รู้ ได้แต่ถ่ายคนถ่ายอีกที T-T แต่ถ้าอยากจะดูรูป Pretty จากงานนี้จริงๆผมว่าในเน็ตก็น่าจะมีให้ดูเพียบอยู่แล้วล่ะครับ
หลังจากที่เดินงาน Auto Salon 2013 เสร็จกลับมาที่สนามก็กำลังจะเริ่มแข่งรอบ 32 คันสุดท้ายพอดี ช่างภาพสื่อต่างๆก็กำลังเตรียมอุปกรณ์และจองที่กันข้างสนามแข่ง ส่วนช่างภาพบ้านๆอย่างเราก็ต้องมานั่งบนอัฒจันทร์ที่ไกลออกมาพอสมควร
ก่อนจะเริ่มยังมีผู้โชคดี (รึเปล่า) จากทางบ้านได้ลองนั่งรถให้นักแข่งดริฟรอบสนามด้วย
คนนี้ไม่ได้เอามอเตอร์ไซค์มาแข่งดริฟนะครับแต่เขาขี่เช็คความเรียบร้อยรอบสนามก่อนที่จะเริ่มแข่งจริงๆ
กำลังจะเริ่มแล้ว
มีแนะนำคู่ที่จะแข่งกันด้วย
ทุกอย่างพร้อม
3...2...1
Go Go Go !!!
มีแต่คนใช้กล้องเลนส์ขาวๆดู hi-so กว่าเราทั้งนั้นเลย :(
ถ่ายแบบแพนกล้องตามนี่ปวดหัวเหมือนกันครับถ่ายมาสิบใบจะใช้ได้สักหนึ่งแถมบางอันได้ action สวยๆแต่ดันไม่ชัดอย่างอันข้างบน เศร้า
พี่ช่างภาพคนนี้เหมือนอยู่ข้างๆสนามจะไม่สะใจ
สักพักเข้าไปถ่ายในสนามเลย
แก๊งนี้ได้ที่นั่งดีที่สุดในสนามเลย
พอดริฟเสร็จแต่ละรอบก็จะมีคะแนนจากกรรมการ โดยที่คู่แข่งแต่ละคนจะต้องผลัดกันเป็นคันนำและคันตาม ซึ่งคนตามก็จะต้องพยามดริฟตามคนนำให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าหมดสองรอบแล้วคะแนนเท่ากันก็จะต้องแข่งกันใหม่
คันสีเขียวนี่ผมแอบเชียอยู่เพราะรถดู Retro ไม่เหมือนใครดีแต่น่าเสียดายพลาดรถหมุนเลยตกรอบ
ครั้งหน้าสงสัยต้องทำเสื้อกั๊กมาเองจะได้ลงไปอยู่ข้างสนามบ้าง
พอแข่งเสร็จสองรอบก็ต้องมาจอดรอตรงทางออกสนาม ถ้ามีคนชนะก็ขับกลับไปที่ Pit แต่ถ้าเสมอกันก็ต้องขับกลับไปที่จุดเริ่มเพื่อแข่งใหม่
พอตกดึกแล้วยิ่งถ่ายยากเข้าไปอีก :(
ยิ่งถึงรอบลึกๆการแข่งขันก็ยิ่งดุเดือดขึ้น
ดริฟไปคู่กันมีจ้องหน้ากันด้วย
หมุนไปอีกหนึ่งคัน ควันนี่ไม่ใช่ไฟไหม้นะครับ มาจากยางเฉยๆ
อันนี้ไฟลุกของจริง
สงสัยสาดโค้งแบบร้อนแรงไปหน่อย
รถฉุกเฉินได้มีงานทำแล้ว
พี่ช่างภาพสองคนนี้ฟิตจริงๆอยู่ตั้งแต่บ่ายยันเที่ยงคืนแถมยืนอยู่กลางสนามไม่มีหลังคาด้วย
เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
เหมือนยิ่งตกดึกอุบัติเหตุก็ยิ่งมากขึ้น รถของเอ็ม อรรถพล ก็ไม่รอด
ไม่เป็นไรสนามหน้าเอาใหม่
Technology ซ่อมรถใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น สก็อตเทป!!!
แข่งเสร็จแล้วมาจอดรถโชว์กันหน่อย
ขอบคุณครับที่ติดตามชม
ขอแถมนิดนึง ปัญหาใหญ่อันนึงเลยที่ผมเจอตอนไปถ่ายแข่งรถดริฟคือควันจากยางรถ
พอหลังจากที่รถเข้าโค้งแรกไปแล้วแทบไม่ต้องพยามจะถ่ายเลยเพราะควันจะเยอะมากจนมองอะไรไม่เห็นเลย